ติดต่อเรา ตอกเสาไมโครไพล์อุดรธานี

คำถามที่พบเจอบ่อย Q&A

• เข็มไมโครไพล์ I-18 รับน้ำหนักได้เท่าไร

      เสาเข็มไมโครไพล์ I 18 ขนาด 18 ซม. x 18 ซม. มีความยาวท่อนละ 1.50 ม. I18 รับน้ำหนักได้ 14 – 16 ตัน เหมาะสำหรับงานพื้นที่จอดรถและ ถนน งาน ปรับปรุงฐานรากโครงสร้างสร้างพื้นโรงงาน ก่อสร้างอาคาร และส่วนต่อเติม 2 ชั้น

• เสาเข็มไมโครไพล์ I-18 กับ I-22 ต่างกันยังไง

     เสาเข็ม I – 18 ใช้คอนกรีตอัดแรง สเต็ง 400 หน้าตัด 216 cm2 น้ำหนัก 66 กก. รับน้ำหนักความปลอดภัยได้ 6-15 ตัน ต่อเมตร เสาเข็ม I – 22 ใช้คอนกรีตอัดแรง สเต็ง 400 มีหน้าตัดเสา 344 cm 2 น้ำหนัก เมตรละ 79 ก.ก รับน้ำหนักความปลอดภัยได้ 20-25 ต่อเมตร

• เสาเข็มไมโครไพล์ กับ เข็มไอ ต่างกันยังไง

     เสาเข็มรูปตัวไอ เหมาะสําหรับใช้ในงานรากฐานของอาคาร บ้านพัก อาศัย สิ่งปลูกสร้างต่างๆ เสาเข็มไมโครไพล์ i15 มีความแข็งแรงทนทาน สามารถรับน้ำหนักได้มาก มีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานยาวนาน คุ้มค่า คุ้มราคา เหมาะสำหรับงานก่อสร้างทุกประเภท

• เสาเข็มไมโครไพล์ ลึกกี่เมตร

     ความลึกของเสาเข็มไมโครไพล์แล้วแต่สภาพดินแต่ละพื้นที่ โดยปกติส่วนมากกรุงเทพฯและปริมณฑล ความลึกอยู่ที่ประมาณ 18-21 เมตร และพื้นต่างอื่นๆ ก็ลึกต่างกันไป แต่แนะนำให้ตอกจนถึงดินที่รับน้ำหนักได้ (ตอกเช็ค Blow Count)

• เสาเข็มไมโครไพล์ มีกี่ชนิด

     ชนิดเสาเข็มชนิดนี้อยู่ด้วยกัน 3 ขนาด คือ เสาเข็มไอไมโครไพล์ 18 ซม. สามารถรับน้ำหนักปลอดภัยได้ 10 ตัน และ สูงสุด 15 ตัน/ต้น เสาเข็มไอไมโครไพล์ 22 ซม. สามารถรับน้ำหนักปลอดภัยได้ 15 ตัน และ สูงสุด 20 ตัน/ต้น เสาเข็มไอไมโครไพล์ 26 ซม. สามารถรับน้ำหนักปลอดภัยได้ 25 ตัน และ สูงสุด 30 ตัน/ต้น

• เสาเข็มไมโครไพล์ ดียังไง

     เสาเข็มไมโครไพล์เหมาะสำหรับงานก่อสร้างและต่อเติมเป็นอย่างยิ่ง สามารถเข้าถึงพื้นที่จำกัดได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ต่อเติมระยะเพียงแค่ 40 cm หรือใกล้กำแพง ก็สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาเหมือนเสาเข็มเจาะในรูปแบบเดิม งานเสร็จรวดเร็วเมื่อเทียบกับเสาเข็มเจาะ

• เสาเข็ม6เหลี่ยม มีกี่เเบบ มีวิธีเลือกใช้งานอย่างไร

อ้างอิง : https://vkb.co.th/

     เสาเข็มหกเหลี่ยม คือ เสาเข็มชนิดตอกอีกแบบหนึ่งที่รู้จักกันดีในวงการช่าง ซึ่งเสาเข็มชนิดนี้เป็นเสาเข็มขนาดเล็กที่เหมาะกับงานในพื้นที่แคบหรือพื้นที่ที่ไม่สามารถนำเครื่องจักรเข้ามาทำการตอกได้ แต่ต้องการเสาเข็มที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี

ลักษณะของเสาเข็มหกเหลี่ยม เสาเข็มหกเหลี่ยม เป็นเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีลักษณะด้านนอกเป็นหกเหลี่ยม ด้านในเป็นรูกลวงยาวตลอดทั้งเสา แต่รูด้านหนึ่งจะใหญ่ ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเล็ก โดยด้านที่เป็นรูกลวงใหญ่จะถือว่าเป็นด้านล่างและด้านที่เป็นรูกลวงเล็กถือว่าเป็นด้านบน เวลาทำการตอกจะวางด้านล่าง(รูกลวงใหญ่) ลงก่อน และทำการตอกด้านบน(รูกลวงเล็ก) ลงไป เพื่อให้พื้นที่ที่เสาเข็มสัมผัสกับดินจนเกิดแรงเสียดทานมีมากขึ้น เหมาะสมกับลักษณะงาน ที่ต้องรับน้ำหนักคานคอดิน งานปูพรม งานฐานเสารั้ว ฐานงานต่อเติม

• เสาเข็มคอนกรีตหรือปูน คืออะไร เลือกใช้งานอย่างไร

อ้างอิง : https://www.acon.co.th/

     เสาเข็มคอนกรีต หรือเสาปูนสําเร็จรูปที่นิยมนำมาใช้งานเป็นฐานรากให้กับอาคาร บ้านเรือนต่าง ๆ มีทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน

1. เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง
เป็นประเภทเสาเข็มคอนกรีต หรือเสาปูนสําเร็จรูปที่คนนิยมเลือกใช้มากที่สุด เนื่องด้วยมีราคาต้นทุนที่ประหยัด และสามารถผลิตเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงนี้ได้ในจำนวนที่เยอะ โดยเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงทำมาจากปูนซีเมนต์ชนิดแข็งตัวเร็ว ประกอบไปด้วยโครงเหล็กภายในที่ทำจากลวดเหล็กอัดแรงกำลังสูง และเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงนี้สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 10-80 ตัน ต่อต้น เสาเข็มคอนกรีตอัดแรงยังมีชนิด และรูปทรงที่แยกย่อยออกมาอีก 4 ชนิดด้วยกันได้แก่

• เสาเข็มคอนกรีต หรือเสาปูนสําเร็จรูปตัวไอ:  มีน้ำหนักที่เบา แต่สามารถรองรับน้ำหนักได้เยอะ และมีความทนทาน สามารถนำไปปรับใช้กับอาคารปลูกสร้างขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับงานก่อสร้างบ่อน้ำ สระว่ายน้ำ โรงจอดรถ เป็นต้น
• เสาเข็มคอนกรีต หรือเสาปูนสําเร็จรูปตัวที:  จะรองรับน้ำหนักได้น้อยกว่าเสาเข็มคอนกรีตรูปตัวไอ เหมาะกับการใช้งานที่มีโครงสร้างเล็ก เช่น ทางเชื่อมระหว่างอาคาร ก่อสร้างฐานรากรั้วบ้านเสริมความเเข็งแรงให้พื้นถนน เป็นต้น
• เสาเข็มคอนกรีต หรือเสาปูนสําเร็จรูปหกเหลี่ยม: มีคุณสมบัติคล้ายกับเสาเข็มคอนกรีตรูปตัวที เหมาะกับหน้างานที่มีพื้นที่จำกัด หรือพื้นที่แคบ เช่น ลานจอดรถ พื้นโกดัง เป็นต้น
• เสาเข็มคอนกรีต หรือเสาปูนสําเร็จรูปสี่เหลี่ยมตัน: มีความนิยมนำมาใช้กันเป็นอย่างมาก เนื่องด้วย ผลิตจากคอนกรีต อัดแรงเสริมด้วยลวดอัดแรง PC wire มีความทนทานเป็นพิเศษ สามารถรองรับน้ำหนักได้เยอะ มีให้เลือกใช้งานตามขนาดหน้าตัด และความยาวตามที่ต้องการ เหมาะเป็นฐานรากให้กับงานก่อสร้างที่มีขนาดเล็กไปจนถึงงานก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ เช่น โรงงาน อาคาร หรืองานก่อสร้างสะพาน เป็นต้น

2. เสาเข็มคอนกรีตเข็มกลมแรงเหวี่ยงอัดแรง หรือชื่อเรียกทั่วไปคือ เสาเข็มสปัน คุณสมบัติพิเศษของเสาเข็มคอนกรีตประเภทนี้คือ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนที่มีต่อพื้นที่ข้างเคียง และมีความแข็งแรงสูง โดยขั้นตอนการผลิตเสาเข็มคอนกรีตเข็มกลมแรงเหวี่ยงอัดแรง หรือเสาเข็มสปันนั้นจะใช้คอนกรีตปั่นในแบบหล่อด้วยความเร็วสูงเพื่อสร้างมวลความหนาแน่นในเนื้อคอนกรีต ลักษณะของเสาจะเป็นทรงกลม มีรูกลวงตรงกลาง มีโครงเหล็กอัดแรงฝังอยู่ในเนื้อผิวคอนกรีต ความหนาของเนื้อผิวอยู่ 6-14 ซม. เส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 20-100 ซม. มีความยาวประมาณ 6-18 ม. เสาเข็มคอนกรีตเข็มกลมแรงเหวี่ยงอัดแรง เหมาะเป็นฐานรากของอาคารสูง เช่น บ้านเรือน โกดัง เป็นต้น

3. เสาเข็มเจาะ

เสาเข็มคอนกรีตประเภทนี้ จะมีการใช้งานที่แตกต่างจากเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง เพราะขั้นตอนการทำเสาเข็มเจาะนั้นจะต้องทำที่หน้างาน หรือในสถานที่กำลังสร้างสิ่งปลูกสร้าง โดยใช้เครื่องมือขุดเจาะขุดดินลงไปให้ได้ความลึก และได้ขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางตามที่กำหนด เสาเข็มเจาะแยกออกเป็น 2 ชนิดดังนี้

• เสาเข็มเจาะขนาดเล็ก: มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 35-60 ซม. มีความลึกอยู่ประมาณ 18-23 ม. จะเป็นการเจาะแบบระบบแห้ง (dry process) เป็นการขุดเจาะโดยใช้เครื่องมือขุดเจาะธรรมดา
• เสาเข็มเจาะขนาดใหญ่: มีขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 80-150 ซม. มีความลึกประมาณ 25-65 ม.จะเป็นการเจาะแบบระบบเปียก (wet process) และฉีด Bentonite slurry เป็นสารเคมีทำความเหลว ลงไปในหลุมที่ต้องทำการขุดเจาะ เพื่อสร้างแรงดันในหลุม และประสานผิวดินในหลุมเพื่อป้องกันการพังทลายของผนังดินในหลุมขุดเจาะ

เสาเข็มเจาะ เหมาะนำมาก่อสร้างเป็นฐานรากของอาคารสูงต่าง ๆ หรือหน้างานที่อยู่ติดกับสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ เพราะเสาเข็มเจาะ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนที่มีต่อพื้นที่ข้างเคียงได้

• เสาเข็มลวดหนาม มีกี่เเบบ มีวิธีเลือกใช้งานอย่างไร

     เสาเข็มรลวดหนามคือ เสาที่ใส่เส้นลวดที่มีหนามแหลมคมเกลียวอยู่บนผิว ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน นิยมนำมาใช้ในการล้อมพื้นที่ล้อมสวนหรือป้องกันผู้บุกรุก รวมไปถึงเป็นรั้วบอกเขตแดน ราคาของลวดหนามมีต้นทุนไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับรั้วประเภทอื่น การติดตั้งง่ายใช้เวลาติดตั้งไม่นานเพียงติดตั้งเสารั้วตามแนวรั้ว และ ดึงลวดหนามไปตามแนวรั้ว

     มี 2 ประเภทที่พบได้บ่อยคือ ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป และ ลวดหนามหีบเพลง ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไปมีการพันเกลียวแบบธรรมดา และมีโอกาสที่หนามจะหลุดหรือเกลียวหนามอาจคลายได้ในส่วนของตัวเส้นลวด ส่วนลวดหนามหีบเพลงมีการพันเกลียวแบบไขว้สลับ ตัวหนามจะแน่นเป็นพิเศษ แข็งแรงไม่มีหลุด ที่สำคัญเส้นลวดจะมีการพันสลับที่แน่นกว่าแบบเดิม หรือแบบพันเกลียวปกติ ทำให้เพิ่มความแข็งแรงของลวดหนาม

• เสาเข็มเจาะ คืออะไร มีวิธีเลือกใช้งานอย่างไร

     เสาเข็มเจาะ จะมีการใช้งานที่แตกต่างจากเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง เพราะขั้นตอนการทำเสาเข็มเจาะนั้นจะต้องทำที่หน้างาน หรือในสถานที่กำลังสร้างสิ่งปลูกสร้าง โดยใช้เครื่องมือขุดเจาะขุดดินลงไปให้ได้ความลึก และได้ขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางตามที่กำหนด เสาเข็มเจาะแยกออกเป็น 2 ชนิดดังนี้

• เสาเข็มเจาะขนาดเล็ก: มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 35-60 ซม. มีความลึกอยู่ประมาณ 18-23 ม. จะเป็นการเจาะแบบระบบแห้ง (dry process) เป็นการขุดเจาะโดยใช้เครื่องมือขุดเจาะธรรมดา
• เสาเข็มเจาะขนาดใหญ่: มีขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 80-150 ซม. มีความลึกประมาณ 25-65 ม.จะเป็นการเจาะแบบระบบเปียก (wet process) และฉีด Bentonite slurry เป็นสารเคมีทำความเหลว ลงไปในหลุมที่ต้องทำการขุดเจาะ เพื่อสร้างแรงดันในหลุม และประสานผิวดินในหลุมเพื่อป้องกันการพังทลายของผนังดินในหลุมขุดเจาะ

• เสาเข็มเหล็ก คืออะไร มีวิธีเลือกใช้งานอย่างไร

อ้างอิง : https://www.wazzadu.com/article/5639

     เสาเข็มเหล็กเป็นวัสดุที่ทำจากเหล็กกล้า มีความแข็งแรงสูงและทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ มักมีรูปร่างเป็นทรงกระบอกหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า สามารถรับน้ำหนักได้ดีและเหมาะกับการใช้งานในหลากหลายสภาพดิน ข้อดีของการใช้เสาเข็มเหล็ก ความแข็งแรงและทนทาน เสาเข็มเหล็กมีความสามารถในการรับน้ำหนักได้มากและทนทานต่อแรงดัน มีทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้

• เสาเข็มเหล็กประเภท N คือ เสาเข็มเหล็กขนาดเล็ก เหมาะสำหรับงานโครงสร้างลักษณะเบา เช่น การประกอบติดตั้งระบบท่อวางบนพื้น งานปรับความสูงพื้นที่ รั้ว โซล่าฟาร์ม เสาไฟขนาดเล็ก ป้ายบอกทาง หรือเฉลียง ฯลฯ
• เสาเข็มเหล็กประเภท F คือ เสาเข็มเหล็กขนาดกลาง เหมาะสำหรับลักษณะงานโครงสร้างที่มีฟุตติ้งในตัว หรือเหมาะสำหรับงานที่ขึ้นโครงสร้างต่อจากเสาเข็มเหล็กได้ทันที รวมถึงโครงสร้างที่มีลักษณะใหญ่ขึ้น เช่น บ้าน 2 ชั้น อาคารน๊อคดาวน์ โครงสร้างอาคารแบบต่างๆ ที่สูงไม่เกิน 2 ชั้น รั้วชนิดต่างๆ หรืองานต่อกับคอนกรีต ฯลฯ
• เสาเข็มเหล็กประเภท FS คือ เสาเข็มเหล็กขนาดกลาง โดยรวมจะมีลักษณะใกล้เคียงเสาเข็มเหล็กประเภท F แต่จะมีรูปแบบเพลทหัวเสาที่แตกต่าง อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในด้านการรับแรงผลัก และแรงถอนได้ดีกว่า เหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่มีฟุตติ้งในตัว หรือเหมาะสำหรับงานที่ขึ้นโครงสร้างต่อจากเสาเข็มเหล็กได้ทันที เช่น บ้าน หรืออาคารน็อคดาวน์ โครงสร้างอาคารสูงไม่เกิน 2 ชั้น งานเสาไฟ เสา CCTV. ฯลฯ

• เสาเข็มเหล็กประเภท D คือ เสาเข็มเหล็กขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับงานโครงสร้างขนาดใหญ่ (ตั้งแต่ 4 ชั้นลงมา) เช่น บ้าน, อาคารประเภทต่างๆ, โรงงาน, เสาไฟขนาดใหญ่ หรือป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ฯลฯ

• เสาเข็มไม้ คืออะไร มีวิธีเลือกใช้งานอย่างไร

     เสาเข็มไม้ เป็นเสาเข็มที่หาได้ง่าย มีน้ำหนักเบา ราคาถูก สามารถที่จะขนส่งได้สะดวก รับน้ำหนักได้น้อย จึงจำเป็นต้องตอกเสาเข็มเป็นกลุ่มๆ ซึ่งจะส่งผลให้มีฐานรากนั้นขนาดใหญ่ เมื่อเลือกใช้เสาเข็มประเภทนี้เราควรทำการตอกให้ต่ำกว่าระดับน้าใต้ดิน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการผุกร่อนจากปลวก และ เห็ดรา ปัจจุบันนิยมใช้เสาเข็มไม้ที่ทำจากไม้สน และ ไม้ยูคาลิปตัส  เหมาะกับการนำไปใช้กับสิ่งปลูกสร้างที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ราคาถูก ขนส่งสะดวก แต่รับน้ำหนักได้ค่อนข้างต่ำ

• เสาเข็มไมโครไพล์ คืออะไร มีวิธีเลือกใช้งานอย่างไร

อ้างอิง : https://knproconcrete.com/product/

     เสาเข็มไมโครไพล์ คือ การตอกเสาเข็มโดยใช้เครื่องตอกขนาดเล็กและเสาแต่ละท่อน มีความยาวเพียง 1.50 เมตร ที่คิดค้นมาใช้สำหรับการตอกเสาเข็มในพื้นที่จำกัด เช่นงานต่อเติมบ้าน งานปรับปรุงอาคารเดิม

      มีแรงสั่นสะเทือนขณะตอกน้อย โดยตุ้มตอกจะมีน้ำหนักเพียง 1.2-1.3 ตัน จึงมีแรงสั่นสะเทือนจากการตอกเสาเข็มน้อยมาก และไม่ทำให้เกิดความเสียหายกับอาคารและสิ่งปลูกสร้างข้างเคียง

    ปัจจุบันเสาเข็มไมโครไพล์ เป็นการตอกเสาเข็มที่เหมาะสมกับงานต่อเติมบ้านมากที่สุด เพราะมีความสะดวก มีความแข็งแรงเพราะสามารถตอกได้ถึงชั้นดินดานใกล้เคียงกับเสาของตัวอาคารเดิม

• เสาเข็มไมโครไพล์ ราคาเท่าไหร่ มีกี่ขนาด มีกี่เเบบ

     เสาเข็มไมโครไพล์ เป็นเสาเข็มที่นิยมนำมาใช้ในการต่อเติม ปรับปรุงอาคาร เนื่องจากมีขนาดเล็ก ขนย้ายสะดวก และเวลาทำงานไม่เลอะเทอะ มีทั้งหมด 4 แบบ

• I15 สามารถรับน้ำหนักได้   6-8 ตัน/ต้น ยาว 1.50 เมตร   ราคาเริ่มต้น 7,500 บาท/ต้น
• I18 สามารถรับน้ำหนักได้   10-15 ตัน/ต้น ยาว 1.50 เมตร  ราคาเริ่มต้น 9,500 บาท/ต้น
• I22 สามารถรับน้ำหนักได้   20-25 ตัน/ต้น ยาว 1.50 เมตร   ราคาเริ่มต้น 12,000 บาท/ต้น
• I26 สามารถรับน้ำหนักได้   30-35 ตัน/ต้น ยาว 1.50 เมตร   ราคาเริ่มต้น 17,000 บาท/ต้น

ดูเพิ่มเติม